ดูหนัง ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ล่วงเลยไป ก่อนที่การ ดูหนังออนไลน์ จะบูมอย่างใหญ่โต แน่ใจว่าทุกคนควรต้องรู้จักหนังไทย อย่าง “กวนมึนโฮ” เรื่องราวของชายหนุ่มแล้ว ก็หญิงสาวที่ต่างคนต่าง ที่ไม่เคยทราบกันและก็ได้ไปเจอกันที่ประเทศเกาหลี จนกระทั่งเกิดความรู้สึกดีๆกลางทาง ถึงแม้มองให้ลึกถึงรายละเอียดของหนังหัวข้อนี้ กวนมึนโฮ ยังแอบเล่าถึงวัฒนธรรม ผู้คน และประเทศชาติประเทศเกาหลีใต้ ผ่านสถานที่เที่ยวต่างๆที่เชื้อเชิญให้ผู้ชมอยากก้าวเท้าออกไปติดตามหนัง จนกระทั่งเกิดเป็นกระแสประเทศเกาหลีฟีเวอร์ ที่ใครๆต้องไปเยี่ยม

ภาพยนตร์ไทยทุกวันนี้ ไม่ครึกครื้นเหมือนแต่ก่อน?

แม้กระนั้นช่วงนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การ ดูหนังไทยเหงาหงอย เหมือนแต่ก่อน ด้วยเหตุผลส่วนใหญ่ที่ว่า น่ารำคาญ จากพล็อตหนังที่ไม่มากมาย วนลูปแม้กระนั้นแนวความรัก ขบขัน หรือสยองขวัญ จนถึงทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่ตื่นเต้นรวมทั้งผันดวงใจไปให้หนังต่างบ้านต่างเมือง จนกระทั่งทำให้อุตสาหกรรมหนังแล้วก็ธุรกิจโรงภาพยนต์ไทยซบเซา

พูดถึง หนัง ก็ต้องคิดถึง โรงภาพยนต์ และก็ ดูหนังออนไลน์ เป็นของคู่กัน เรายังจำโมเมนต์รุ่งโรจน์เวลานัดหมายเพื่อนพ้องไปดูหนังในวันหยุด มันดีวันที่ทำให้พวกเรากับเพื่อนพ้องได้สนิทกัน เพราะว่าออกมาจากโรงภาพยนต์ก็มาเมาท์มอยกันว่า ดูหนัง ฉากไหนที่ประทับจิตใจ แล้วก็เดินเที่ยวเล่นต่อในพื้นที่ท่องเที่ยวรอบตัว เช่น ไม่วเซียมหรือสวนสาธารณะจนกระทั่งหมดวัน ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง โรงภาพยนต์ก็เป็นตัวกลางที่เชื่อมคนแล้วก็เมืองให้ออกมาเจอะกันได้อย่างแนบเนียน

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือ หนังไทยมีไม่พอ ซึ่งต้นเหตุของคำว่า น้อยเกินไป ต้องย้อนกลับไปตัวการ ที่ว่าไม่มีผู้ใดช่วยเหลือและก็เปิดโอกาส พื้นที่ให้คนทำหนังได้ฉายแวว อย่างประเด็นการขอทุน ในไทยที่มีอยู่น้อยนิด และกฎระเบียบเยอะมาก ต่างจากประเทศที่เปลี่ยนแปลงแล้ว ที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ

ถ้าเกิดเทียบกับต่างแดน มันต่างราวฟ้ากับดิน พี่อยู่ที่ออสเตรเลีย การขอทุนหาได้หลายที่มากมายก่ายกองๆซึ่งในแต่ละเมือง พวกเราสามารถขอทุนได้ จากรัฐบาลในเรื่องของศิลปแล้วก็วัฒนธรรม ไม่เพียงพอแค่นั้น มันก็จะมีองค์กรอิสระหรือ Creative Victoria หน่วยงานของรัฐที่เกื้ออุตสาหกรรมประดิษฐ์ เล็กลงไปหน่อยก็จะมีแนวทางหารายได้ทุนเล็กๆล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นด้านเพลง หนัง และก็ศิลป์ในระดับเขต ลงไปอีกก็จะหรูหรา ที่สามารถขอทุนได้อีกด้วย แต่ถ้าเป็นที่ไทยก็จะเป็นกระทรวงวัฒนธรรมที่เดียวเลย

มีการโฟกัสไม่ถูกจุด

สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างเป็น เอกสารสำหรับสมัคร ถ้าเกิดของที่มาจากเมืองนอกจะมองกระบวนการทำหนังเป็นธุรกิจ เพียงแค่อยากรู้ว่าคุณได้เงินไปแล้วจะเอาหนังไปต่อยอดทำอะไรได้บ้าง ต่างจากไทยที่จุดโฟกัสเรื่องบทหนังมากยิ่งกว่าจุดมุ่งหมาย ได้แก่ เรื่องเกี่ยวกับอะไร ผู้ใดกันแน่เป็นศิลปิน ตอนสุดท้ายคืออะไร กระทบผู้ใดไหม

ซึ่งคนทำหนังยังมิได้สร้างหนัง เพื่อ ดูหนังออนไลน์ เลยแล้วเขาจะเอาบทมาจากไหนล่ะ มันก็เลยทำให้คนรุ่นหลังไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะเหตุว่ากลัวว่าจำเป็นต้องไม่ผ่านแน่เลย ทำและจากนั้นก็ต้องลบใหม่เพื่อประทับใจ ซึ่งมันเป็นการจำกัดอิสระทางความคิดสร้างสรรค์ของคนคนหนึ่งให้หายไปได้เลย

ปัญหาในวงการหนังบ้านพวกเราเป็น ไม่มีพื้นที่ช่วยเหลือให้คนทำหนังได้โชว์ความรู้ความเข้าใจ ไม่มีถึงแม้ว่าจะบันไดก้าวเล็กๆได้เหยียบขึ้นไป อย่างโรงภาพยนต์อิสระที่มันใกล้จะตายไปบ่อยซึ่งคราวก่อนฉายหนังแต่ละรอบใช้เวลาเป็นเดือน ในขณะนี้ถ้าหากว่าไม่ได้รับความนิยมก็จะถูกเอาออกไป รวมถึงคนถ่ายทำหนังไทยที่ได้รับรางวัลก็ไม่มีช่องทาง ดูหนัง ได้ฉายในโรงภาพยนต์ ก็ทำให้ผู้ชมปกติเข้าถึงยากและไม่อิน มันก็ไร้สาระอะไรที่เอาไปต่อยอด จนถึงกำเนิดเป็นความไม่มีความเอาใจใส่ต่อภาพยนตร์ไทยท้ายที่สุด

หนังไทย หวังเงินลงทุน มากกว่ารางวัล

ถ้าเราทำรายได้ปิดจบภาพยนตร์ ประเด็นนั้นที่ 100 ล้านบาท โรงภาพยนต์จะหักในทันที 50% พอกับจะเหลือ 50 ล้านบาท แต่ว่าบริษัทภาพยนตร์ก็ยังไม่ได้ยอดนี้ ควรต้องโดนบริษัทรับขายภาพยนตร์ หักอีก 10-15% ยอดที่หลายๆคนมีความเห็นว่าภาพยนตร์ประเด็นนั้นหัวข้อนี้ยอดจำหน่ายทะลุเท่านั้นเองเท่านี้ มันไม่ใช่กำไรทั้งสิ้นของคนถ่ายทำหนัง นั้นแสดงว่า ผู้ครอบครองหนังจะได้รายได้จาก 100 บาท จะเหลือถึงผู้ผลิตหนัง ไม่เกิน 40 บาท หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งเราไม่เห็นทางเลยว่าเค้าจะได้กำไรตรงไหน

แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ ภายหลังหนังฉายในโรงถึงกำหนด บริษัทผลิตภาพยนตร์ก็ต้องไปเร่ขายตาม platform ดูหนังออนไลน์ อื่นๆโดนกดราคาอีก รวมทั้ง การที่จะส่งไปขายสิทธิเมืองนอกก็ยังไม่มีหน่วยราชการที่ช่วยส่งเสริมคนทำวงการหนังไทยอย่างเอาเป็นเอาตาย ค่ายหนังจึงควรดิ้นรนรู้จักทั้งหมดทุกอย่าง บริษัทผลิตภาพยนตร์ใหม่ที่จะกำเนิดในแวดวงก็ยากเพราะจะต้องมีวิชาเก๋าพอเหมาะพอควรถึงจะอยู่ในแวดวงภาพยนตร์ได้

ดูหนังออนไลน์ ไม่ง่ายเลย สำหรับใครกันแน่ที่จะเข้ามา อยู่ในธุรกิจภาพยนตร์ในประเทศไทย เพราะนอกจากการเสื่อมความนิยมของผู้ชม ต่อภาพยนตร์ไทยร่วมกันแล้ว หันไปชื่นชมหนัง blockbuster จากฝั่งฮอลลี่วูด ยิ่งระยะหลังที่กระแสหนัง superhero ครองตารางหนังที่เขาฉาย ยกขบวนกันต่อคิวรอคอยเกือบตลอดปี ยิ่งทำให้คนถ่ายทำหนังไทยอยู่ยากขึ้นไปอีก และอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุที่ทำให้หนังไทยมีแต่ว่าผี ขบขัน เพราะเหตุว่าผู้ลงทุนเองเห็นว่าหนังในหมวดกลุ่มนี้ สามารถทำเงินให้เขาได้ โดยไม่ต้องลงทุนมากมายเท่ากับหนังแนวอื่นๆซึ่งเว็บ subthai.tv ก็พร้อมให้คุณได้เลือกเฟ้นหนังใหม่ หนังดังจำนวนมากให้ท่าน